วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การตกปลา


ในปัจจุบัน การตกปลาชายฝั่งทะเลโขดหินนั้น นับว่าเป็นที่สนใจสำหรับนักตกปลาส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบกับปลาทะเล และธรรมชาติอันงดงามของชายฝั่งทะเล ซึ่งนอกจากได้ตกปลาแล้ว ยังได้พักผ่อนท่องเที่ยว ไปในตัวอีกด้วย โดยทั่วไปรูปแบบการตกปลาชายฝั่งทะเลนั้น นอกจากการตกปลาโดยใช้เหยื่อจริง(ทั้งเหยื่อเป็น และเหยื่อตาย)แล้วนั้น การตกปลาโดยใช้เหยื่อปลอม หรือ การตีเหยื่อปลอม ก็เริ่มเป็นที่นิยมกันในหมู่นักตกปลาบ้านเรา โดยเฉพาะ แถบชายฝั่งทะเล อันดามัน อาทิเช่น แถบ จ.พังงา , ภูเก็ต , ตรัง ก็เริ่มมีการตกปลาโดยวิธีนี้กันบ้างแล้ว เนื่องจาก ปลาที่ตกด้วยวิธีนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นปลาล่าเหยื่อที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีพละกำลังมาก เช่น ตระกูลปลากะมง ปลาสาก ปลาสีเสียด อินทรีย์ ปลาเก๋า ปลากะพง ฯลฯ ปลาบางชนิดก็เป็นปลาเกมส์ เช่น ปลากะมงพร้าว เป็นต้นทำให้มีอรรถรส ในการตกปลามากกว่าสำหรับผู้เขียนเอง ก็เริ่มตกปลาด้วยวิธีนี้มาประมาณ 2-3 ปี ซึ่งประสบการณ์ส่วนใหญ่ ได้จากพี่ๆสมาชิกในทีม Shadow Fishing Club Phuket จึงได้รวบรวมเทคนิคต่างๆ นำเสนอให้ทุกท่านที่กำลังสนใจการตกปลาประเภทนี้ เพื่อเป็นความรู้ และเป็นประโยชน์ ในการตกปลาด้วยเหยื่อปลอม ให้ได้ผลมากที่สุดครับ[q]รูปแบบการตีเหยื่อปลอม [/q]ในปัจจุบัน รูปแบบการตีเหยื่อปลอมชายฝั่งทะเล มีมากมาย แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมในบ้านเรานั้น ก็คือการตกปลาในรูปแบบ แนวราบ (Horizontal) ซึ่งมีทั้งการตกปลาแบบ ผิวน้ำ กลางน้ำ และการตกปลาจากบนฝั่ง และตีเหยื่อปลอมบนเรือ ตีเข้าหาชายฝั่ง[q]-เหยื่อผิวน้ำ [/q] โดยส่วนใหญ่จะเน้นเหยื่อประเภท Popper ซึ่ง ขนาดที่ใช้ขึ้นอยู่กับประเภทปลาที่จะตก โดยมาก จะมีขนาด ตั้งแต่ 9 – 18 เซนติเมตร ซึ่งผู้เขียนเองส่วนใหญ่จะเน้นเหยื่อ ขนาด ประมาณ 12 cm จะครอบคลุม ปลาที่กินเหยื่อได้กว้างกว่า ปลาที่หวังผลปลาจำพวก กะมงพร้าว กะมงขาว ปลาสากเหลือง ปลาสากดำ ปลาสีเสียด ปลาอินทรีย์ ปลาโทง ฯลฯ [q]-เหยื่อกลางน้ำ /ดำน้ำ [/q] โดยทั่วไปเป็นเหยื่อประเภท Plug แบบ Floating (ลอยน้ำ) และ เหยื่อประเภท sinking (เหยื่อจมน้ำ) เหยื่อ Plug สาเหตุที่แนะนำแบบ Floating นั้น เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของชายฝั่งทะเล เป็นลักษณะโขดหิน การใช้เหยื่อประเภทนี้จะแก้ปัญหาโอกาสเหยื่อติดหินได้ เพราะเมื่อเราหยุดหมุน เหยื่อก็จะลอยน้ำขึ้นมาได้นั่นเอง เช่น X-rap 10-18 Cm , Longcast 10-12 cm หรือพวก Magnum 9 -11 cm หวังผลปลาล่าเหยื่อทั่วๆ ไป เช่นกะมง ปลาสาก ปลาเสียด ปลาเก๋า ฯลฯ สำหรับเหยื่อประเภท sinking นั้นจะเน้นไปจำพวกเหยื่อ โลหะ เช่น ไรเดอร์ , Maniact ,snipper ซึ่งถ้าเป็นการเลือกใช้งานเหยื่อประเภทนี้ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศของชายฝั่งด้วย เช่น เหยื่อไรเดอร์ จะเป็นเหยื่อที่มีน้ำหนักมาก และจมเร็ว เหมาะสำหรับ ชายฝั่งทะเลโขดหินน้ำค่อนข้างลึก และสถานที่ต้องการทำระยะไกลๆ เป็นต้น ส่วนเหยื่อ Maniact ลักษณะเหยื่อค่อนข้างบาง น้ำหนักไม่มาก จึงทำให้เหยื่อจมลงได้ช้ากว่า เหมาะกับสภาพน้ำไม่ลึกมากนัก และไม่ต้องการทำระยะมาก ปลาหวังผล ส่วนมาก ปลากะมงพร้าว กะมงขาว ปลาสีเสียด ปลาสาก ปลาหางแข็ง เรนโบว์รันเนอร์ และปลาโทง เป็นต้น[q]การเลือกชุดอุปกรณ์ในการตีเหยื่อปลอมชายฝั่งทะเล[/q] การเลือกชุดอุปกรณ์ในการตีเหยื่อปลอมชายฝั่งนั้น ไม่ตายตัว ดังนั้นผู้เขียนขอยกตัวอย่างอุปกรณ์สำหรับ Light Popping เป็นตัวอย่างครับ ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมการใช้งานได้หลากหลายนอกจากการPopping แล้ว เช่น ใช้งานประเภทเหยื่อ Plug และ เหยื่อ โลหะ Sinking เช่น ไรเดอร์ หรือ Maniact ก็สามารถใช้งานได้ โดยทั่วไปการเลือกชุดอุปกรณ์ สำหรับตกปลานั้น เราต้องคำนึงถึงประเภทการใช้งาน และชนิดของปลาที่เราจะตกเป็นอันดับแรก ซึ่งแน่นอน การตกปลาประเภท Light Popping ชายฝั่งทะเลโขดหินนั้น เน้นปลาล่าเหยื่อที่มีขนาดตั้งแต่ 1 กิโลกรัม จนอาจถึง 20 กิโลกรัม ในสภาพภูมิประเทศที่เสียง และอุปสรรคมากมาย อุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องเน้นความแข็งแรงและความคล่องตัวเป็นพิเศษ ดังนั้นชุดอุปกรณ์จะเน้นไปทาง spinning มากกว่า เพราะเน้นความคล่องตัวสูง อีกทั้งการตกปลาแบบ Light Popping นั้นสามารถเลือกได้กว้างกว่า อุปกรณ์ชุดใหญ่ เพราะ เราสามารถใช้คันที่ไม่ใช่คันประเภท Popper rod มาใช้งานประเภทนี้ได้ แต่เพียงเรา เลือกคุณสมบัติของคัน ให้เหมาะสม กับปลาที่จะตกก็เพียงพอสำหรับตกปลาประเภทนี้ แล้ว และยังได้อรรถรส มากกว่า ซึ่งบางท่าน นำชุดใหญ่เกินไปตี ซึ่งมันไม่เหมาะสม กัน (บางท่านคงรู้สึกว่า เวลาอัดปลาใหญ่ด้วยชุด อุปกรณ์ที่เหมาะสมกัน จะทำให้ มีอรรถรส มากกว่า ) แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าสถานที่นั้นมีปลาล่าเหยื่อขนาดใหญ่ด้วยหรือไม่ ซึ่งก็ต้องประมาณอุปกรณ์เผื่อไว้ด้วยเพราะท่านคงไม่อยากเสียโอกาส เมื่อเจอผิดคิว[q]-การเลือกคันเบ็ด [/q] คันเบ็ดที่ใช้ สำหรับตีเหยื่อปลอมชายฝั่งนั้น ไม่จำเป็นต้อง เป็นคัน Popper ก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับขนาดของปลาที่ตก เช่น กะมงพร้าว ไม่เกิน 3 กิโลกรัม ปลาประเภทอื่น ก็ได้ถึงขนาด ไม่เกิน 7-10 กิโลกรัม ก็ใช้ชุดนี้ได้ครับ [q]คุณสมบัติ ของคันเบ็ด[/q]1) การตีเหยื่อปลอมชายฝั่ง ควรมีความยาว( Length) 8 ฟุต ขึ้นไป เพราะส่วนใหญ่ต้องทำระยะค่อนข้างมาก แต่ถ้าตีจากบนเรือ ความยาวของคันควร ไม่เกิน 9 ฟุต เพราะคันยาวเกินไป ทำให้การนำปลาขึ้นจากเรือทำได้ยาก แลการตีจากบนเรือเราไม่ต้องทำระยะมากกว่าฝั่ง2) ถ้าเป็นคัน ประเภท spinnig ธรรมดา weight ของคันควร ค่อนข้างสูง ควรจะ 15-30 lb ถ้าอ่อนกว่านี้จะทำให้ การ Popping ทำให้ไม่ดี และมีผลกับการ Set hook ทำให้ปลาหลุดง่าย รวมถึงการงัดปลา ก็ทำได้ยาก ทำให้ใช้เวลาในการสู้นานเกินไป ทำให้ปลาหลุด หรือถ้าคันอ่อนไป อาจทำให้การรั้งปลาไม่ให้วิ่ง ทำได้ยากกว่า ซึ่งอาจทำให้ปลาเข้าหินขาดได้ง่าย และยังมีผลกับการขว้างเหยื่อ โดยสายที่ออกมาจากรอก ออกมาเร็วกว่าจังหวะคันดีดตัวกลับ ทำให้สายพันได้ เป็นต้น ถ้าเป็นคันประเภท Popper ได้ ก็จะดีกว่า แต่ควรเป็นคัน Popper เวทที่ไม่แข็งจนเกินไป ซึ่ง ต้องให้เหมาะสมกับปลาที่ตกด้วย เช่น weight line 15-40 lb 8 ft หรือ ขนาด PE 4-6 3) คันควร มีน้ำหนักเบา และ สปริงตัวได้เร็ว เช่น คันประเภท กราไฟท์ และกำลังค่อนข้างสูงสปริงตัวดีดกลับได้ดี (ขณะที่ปลาฮุปและกระชากเหยื่อออกไป คันไม่ดี คันอาจหักได้)4) ด้ามคันยาวพอสมควร เพราะเราใช้ขว้างเหยื่อ ถ้าด้ามสั้น คงลำบากแน่5) ในส่วนของไกด์ตัวบนสุด หรือ TipTop นั้น ควรใช้ที่มีประสิทธิภาพดี เช่นของ Fuji ประเภท รูกว้าง ไม่แนะนำรูขนาดเล็ก เพราะสาย จะออกได้ยาก เพราะสายที่ใช้ อาจมีการควั่นสาย หรือต่อสายหน้าที่เป็น เอ็น ซึ่งแน่นอนต้องมีปมช่วงรอยต่อ ก็ต้องใช้ไกด์ ที่มีขนาดของรูวงใหญ่หน่อย อีกทั้งเป็นสาย PE หรือ Dyneemaด้วย โอกาสสายพันแล้วติดไกด์ มีสูงและไกด์ จะต้องรองรับการเสียดสีของสายในรอก ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้สาย PE หรือ Dyneema ซึ่งโอกาสสายบาดไกด์มีสูงมาก [q]-การเลือกรอก [/q] รอกตีเหยื่อปลอมชายฝั่งนั้น ต้องเน้นความแข็งแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากการตกปลาประเภทนี้ค่อนข้างใช้งานหนักมาก เนื่องจากต้องตีเหยื่ออยู่บ่อยครั้ง อัตราการหมุนของรอกจะมากว่าการใช้งานรอกตกปลาประเภทอื่น มากเลยทีเดียวคุณสมบัติ ควรมีดังนี้ครับ1) รอกมีระบบการจัดเรียงเก็บสายได้ดี ซึ่งจะมีผลมาก เพราะถ้ารอกเรียงสายได้ไม่ดี สายจะฟู่ง่ายเมื่อขว้างเหยื่อ บ่อยๆ ครั้งขึ้น ซึ่งอาจทำให้เหยื่อขาดได้2) ควรเป็นรอกระบบเดินหน้าทางเดียว เพราะขณะ เราPopping เราจะหมุนไปด้วย ถ้าปลาเกิดฉวยเหยื่อ โอกาสที่รอกจะหมุนกลับมีสูงทำให้ขาด หรือหลุดได้ครับ 3) ระบบปิดหน้ารอก ควรมีประสิทธิภาพ ไม่ดีดกลับง่าย4) จุสายได้พอสมควรครับ แนะนำรอกขนาด เบอร์ 4000 ขึ้นไป ถ้าเป็นตระกูล Shimano อย่างต่ำ ก็ 4000 แต่ แนะนำให้เล่น เบอร์ 5000 เพราะจุสายเยอะ อย่างน้อยๆ PE 4 ควรไม่ต่ำกว่า 150-200 เมตร โอกาสได้ตัวจะเยอะเมื่อเจอผิดคิว และควรจะเป็น รอก Hard body เพราะจะทนกว่าตะกูล Shimano เช่น Ultegra Biomaster ถ้าเป็นตระกูล Daiwa ก็ เบอร์ 4000 เช่นDaiwa Cy ,Daiwa Fream Kik ,Daiwa caldia Kik 5) ตัว ไลน์โรลเลอร์ เกลี่ยสาย ต้องแข็งแรง ไม่บีบเข้าหา spool เมื่อเจอแรงดึงสูง6) รอกมีกำลังเบรกค่อนข้างสูง เพราะ ถ้าเบรกน้อยไป ก็ไม่เป็นผลดี โอกาสปลาเข้าหินได้ มีสูง

ระบบนิเวศ


ระบบนิเวศ
สิ่งแวดล้อม คือ สรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา แบ่งออกเป็น 2 องค์ประกอบใหญ่ คือ สิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ ได้แก่ มนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก และอีกองค์ประกอบหนึ่ง คือสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ได้แก่สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ คือ ดิน น้ำ ป่าไม้ อากาศ แสง ฯลฯ และสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นได้แก่ สิ่งก่อสร้าง โบราณสถาน ศิลปกรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม เป็นต้น
สิ่งแวดล้อมแต่ละบริเวณจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิศาสตร์ และสภาพภูมิอากาศ ทำให้กลุ่มสิ่งมีชีวิต(community) อาศัยอยู่ในบริเวณแตกต่างกันไปด้วย ดังตัวอย่างในสระน้ำแห่งหนึ่งดังภาพ


ในแหล่งน้ำนี้จะมีกลุ่มสิ่งมีชีวิตได้แก่สัตว์น้ำ ทั้งตัวเต็มวัย ตัวอ่อน และพืชน้ำนานาชนิด รวมทั้งสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก และจุลินทรีย์จำนวนมากอาศัยอยู่รวมกัน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์กันไปตามบทบาทหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตแต่ละกลุ่ม กล่าวคือ พืชและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีคลอโรฟีลล์ เป็นพวกที่สร้างอาหารได้เองโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง จึงเป็นผู้ผลิตแหล่งอาหารที่สำคัญให้แก่สัตว์ ซึ่งจะกินต่อกันเป็นทอดๆ จากสัตว์กินพืช สัตว์กินสัตว์ และสัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหารต่อไป เมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลายตายลง ก็จะถูกจุลินทรีย์กลุ่มสิ่งมีชีวิตย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิตให้เป็นสารอนินทรีย์กลับคืนสู่แหล่งน้ำ
ในแหล่งน้ำจะมีสารและแร่ธาตุต่างๆละลายปนอยู่ในน้ำ ซึ่งมีปริมาณมากบ้างน้อยบ้างตามฤดูกาล เนื่องจากในหน้าแล้งน้ำก็จะระเหยออกไป ส่วนในฤดูฝนก็จะมีน้ำและสารต่างๆถูกชะล้างจากบริเวณใกล้เคียงไหลลงสู่แหล่งน้ำ จึงทำให้ปริมาณน้ำและสารต่างๆเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำก็ได้ใช้สารและแร่ธาตุต่างๆในการดำรงชีวิต ได้แก่ การหายใจ การเจริญเติบโต การสังเคราะห์ด้วยแสง ฯลฯ จากกระบวนการเหล่านี้ที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งกระบวนการย่อยสลายของอินทรียสารของพวกจุลินทรีย์ จะมีการปล่อยสารบางอย่างออกสู่แหล่งน้ำ และสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำก็จะใช้สารเหล่านั้นในกระบวนการต่างๆอีก
สารและแร่ธาตุต่างๆจึงหมุนเวียนเข้าสู่สิ่งมีชีวิต และปล่อยออกสู่แหล่งน้ำตลอดเวลาวนเวียนเป็น
วัฏจักร
ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในแหล่งน้ำนี้ เช่น มีปริมาณธาตุไนโตรเจนมากเกินไปก็จะมีผลทำให้พืชน้ำหลายชนิดเจริญเติบโตขยายพันธุ์มากและรวดเร็ว ในระยะแรกๆ สัตว์น้ำที่กินพืชเป็นอาหารจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น จนในที่สุดพืชที่เป็นแหล่งอาหารจะลดปริมาณลง ทำให้สัตว์กินพืชลดจำนวนลง และมีผลทำให้สัตว์กินสัตว์ลดจำนวนตามไปด้วย เนื่องจากอาหารไม่เพียงพอ
ในขณะที่สัตว์และพืชเพิ่มจำนวนมากขึ้น ก็จะเกิดความแออัด จะมีของเสียถ่ายสู่แหล่งน้ำมากขึ้น ทำให้คุณภาพของแหล่งน้ำนั้นเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการดำรงชีพของสัตว์และพืชบางชนิด แต่ไม่เหมาะสมสำหรับสัตว์และพืชอีกหลายชนิด ในแหล่งน้ำจึงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และจะพบว่ามีความสัมพันธ์กันภายในอย่างซับซ้อน ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตกับปัจจัยต่างๆในแหล่งน้ำมีการควบคุมตามธรรมชาติที่ทำให้จำนวนและชนิดของสิ่งมีชีวิตอยู่ในภาวะสมดุลได้
ความสัมพันธ์ในสระน้ำนั้นเป็นตัวอย่างของหน่วยหนึ่งในธรรมชาติ เรียกว่า ระบบนิเวศ
(ecosystem) ซึ่งเป็นระบบความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกันในบริเวณนั้น และความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตกับสภาพแวดล้อมของแหล่งที่อยู่ ได้แก่ ดิน น้ำ แสง ในระบบนิเวศจะมีการถ่ายทอดพลังงานระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตกลุ่มต่างๆ และมีการหมุนเวียนสารต่างๆจากสิ่งแวดล้อมสู่สิ่งมีชีวิตและจากสิ่งมีชีวิตสู่สิ่งแวดล้อม
ระบบนิเวศมีทั้งระบบใหญ่ เช่น โลกของเราจัดเป็นระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุด เรียกว่า โลกของสิ่งมีชีวิตหรือชีวภาค (biosphere) ซึ่งรวมระบบนิเวศหลากหลายระบบ และระบบนิเวศเล็กๆ เช่น ทุ่งหญ้า สระน้ำ ขอนไม้ผุ ระบบนิเวศ จำแนกได้เป็น ระบบนิเวศตามธรรมชาติ ได้แก่ ระบบนิเวศบนบก เช่น ป่าไม้ บึง ทุ่งหญ้า ทะเลทราย ระบบนิเวศน้ำ เช่น แม่น้ำลำคลอง ทะเล หนอง บึง มหาสมุทร ระบบนิเวศอีกประเภทหนึ่งคือ ระบบนิเวศที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ ระบบนิเวศ ชุมชนเมือง แหล่งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม เป็นต้น